5 เหตุผลที่คุณไม่ควรสร้างเว็บไซต์ฟรี

ปัจจุบันมีบริการเว็บไซต์ฟรี/บล็อกฟรีอยู่มากมาย แต่ก่อนที่คุณจะเสียเวลาสร้างเว็บไซต์ฟรี คุณควรรู้ข้อเสียของเว็บไซต์ฟรีเสียก่อน

ข้อเสียหลักๆ ของเว็บฟรี มีดังนี้ครับ

1. คุณไม่ใช้เจ้าของที่แท้จริง ไม่มีสิทธิเด็ดขาดในการควบคุม

หากคุณทำเว็บไซต์ฟรี คุณจะไม่สามารถควบคุมเว็บไซต์ของคุณได้ 100%

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสร้างเว็บไซต์ฟรีกับ WordPress.com คุณจะไม่สามารถขายพื้นที่โฆษณา หรือลง Google Adsense บนเว็บไซต์นี้เพื่อทำเงินได้ สิทธิในการลงโฆษณาบนเว็บไซต์ที่คุณสร้างจะเป็นของ WordPress.com (นี่เป็นช่องทางหารายได้นึงของเค้าครับ)

อีกอย่างนึงที่ต้องระวังถ้าคุณมีเว็บไซต์ฟรี คือ เป็นไปได้ว่าอาจเกิดเหตุการณ์อะไรซักอย่างทำให้บัญชีเว็บไซต์ฟรีของคุณถูกปิดไป เช่น คุณอาจทำผิดเงื่อนไขหรือข้อบังคับการให้บริการ (โดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ)

หากบัญชีคุณถูกปิดไป คุณก็ต้องยื่นคำขอให้เค้ากู้เว็บไซต์คืนมาให้ แต่อย่าตั้งความหวังสูงมากนัก เพราะคุณเป็นแค่ผู้ใช้งานคนหนึ่งที่ไม่มีความสำคัญอะไร (เพราะคุณไม่ได้จ่ายเงินให้) หากคำร้องของคุณถูกเมินเฉยหรือถูกปฏิเสธ ก็จบครับ คุณไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะคุณไม่ใช่เจ้าของเว็บไซต์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สิทธิ์เด็ดขาดอยู่ที่บริษัท ไม่ได้อยู่ที่คุณ

2. URL ของเว็บไซต์จะยาวมาก

URL เต็มๆ ของเว็บไซต์นี้คือ https://noobmarketer.com

จะเห็นได้ว่า URL นี้ค่อนข้างสั้น, จำง่าย, และพิมพ์สะดวก ที่ผมใช้ URL นี้ได้ก็เพราะผมจ่ายเงินเพื่อใช้ชื่อโดเมน noobmarketer.com (จ่ายเป็นรายปี)

แต่สมมุติว่า ผมไม่อยากจ่ายค่าโดเมน เลยไปสมัครบริการเว็บไซต์ฟรีแทน (สมมุติว่าสมัครทำเว็บฟรีกับ WordPress.com) ถ้าทำแบบนั้น URL ของเว็บไซต์ผมจะมีหน้าตาแบบนี้ครับ https://noobmarketer.wordpress.com

อย่างที่เห็น URL อันนี้ยาวเป็นกิโลเลย ทำให้ลำบากเวลาพิมพ์

3. ขาดความน่าเชื่อถือ

ถ้าคุณคิดจะทำเว็บไซต์เล่นๆ ข้อนี้คงไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณจะทำเว็บขายสินค้า เว็บประจำองค์กร หรือเว็บไซต์อะไรซักอย่างที่ต้องการความน่าเชื่อถือ การใช้เว็บไซต์ฟรีไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่

ลองคิดดู สมมุติคุณมีเว็บไซต์ขายกระเป๋าเดินทาง แต่ว่าเป็นเว็บไซต์ฟรีชื่อ https://thaibags.wordpress.com พอคนเห็น URL เว็บไซต์คุณ เขาจะคิดประมาณนี้ครับ

  • แหม แม่ค้า/พ่อค้า คนนี้ขี้เหนียวจัง ทำธุรกิจแต่ไม่ยอมลงทุนแม้กระทั่งค่าเว็บไซต์
  • หืม เว็บไซต์ฟรีนี่นา คนขายคงไม่คิดทำธุรกิจจริงจังละมั๊ง ไปซื้อที่อื่นดีกว่า
  • เว็บนี้ยังมีคนดูแลอยู่ไหมหว่า ถ้าชำระเงินไปแต่ไม่ได้สินค้า จะติดต่อใครได้ไหมเนี่ย

ปัจจัยอีกอย่างที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือเว็บไซต์ ก็คือ อีเมลเว็บไซต์สำหรับเอาไว้ติดต่อ

ถ้าคุณมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง คุณสามารถสร้างอีเมล์ภายใต้ชื่อเว็บไซต์คุณเองได้ เช่น natee@thaibags.com

คุณสามารถให้ลูกค้าหรือผู้เยี่ยมชมเว็บติดต่อผ่านอีเมลนั้น แทนที่จะเป็นพวกอีเมลฟรีทั้งหลายแหล่เช่น Gmail, Yahoo, หรือ Hotmail ซึ่งขาดความน่าเชื่อถือ

ถ้ายังไม่เชื่อ ผู้อ่านลองดูว่าข้อความสองอันล่างอันไหนน่าเชื่อถือมากกว่ากัน

  1. หากต้องการติดต่อสอบถาม ติดต่อได้ที่ natee@gmail.com
  2. หากต้องการติดต่อสอบถาม ติดต่อได้ที่ natee@thaibags.com

อันที่สองน่าเชื่อถือว่าเยอะใช่ไหมละครับ เพราะเป็นอีเมลภายใต้เว็บไซต์เราเอง

ปล. หากคุณกำลังสงสัยว่าจะอ่านและตอบข้อความผ่านอีเมลของเว็บไซต์ได้อย่างไร อันนี้มีหลายวิธีครับ แต่วิธีที่สะดวกที่สุด (ซึ่งผมใช้อยู่) ก็คือ ถ้าคุณมีบัญชี Gmail อยู่แล้ว คุณสามารถตั้งค่า Gmail ให้เช็คอีเมลผ่านบัญชีอื่นได้ อาจจะยุ่งยากตอนตั้งค่านิดหน่อย แต่หลังจากนั้นสะดวกมากครับ เพราะคุณจะสามารถอ่านและตอบอีเมลผ่าน Gmail ได้เลย (สำหรับวิธีการอย่างละเอียดดูที่นี่ครับ)

4. มีขีดจำกัดในการปรับแต่งเว็บไซต์

ถ้าคุณมีเว็บไซต์แบบไม่ฟรี คุณสามารถจัดการปรับแต่งเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ (เท่าที่ความสามารถและงบประมาณที่มีจะอนุญาต) เช่น

  • อัพเกรดเว็บโฮสติ้งของเว็บไซต์ เพื่อรองรับจำนวนผู้เข้าชมที่มากขึ้น
  • เปลี่ยนดีไซน์ (หน้าตา) ของเว็บไซต์
  • เพิ่มการทำงานบางอย่างให้กับเว็บไซต์ เช่น สร้างแบบฟอร์มเพื่อให้คนสามารถส่งอีเมล์หาคุณผ่านเว็บไซต์ได้
  • ติดตั้ง Google Analytics ซึ่งเป็นเครื่องมือเก็บสถิติต่างๆ ของเว็บไซต์ เช่น จำนวนคนที่เข้าดูเว็บไซต์ของเรา

แต่ถ้าคุณมีเว็บไซต์ฟรี คุณอาจจะไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ครับ นี่เป็นเหตุผลที่เว็บไซต์ฟรีส่วนใหญ่จะมีหน้าตาคล้ายๆ กัน และมีการทำงานที่ค่อนข้างจำกัด

นอกจากนี้ เว็บไซต์ฟรีหลายที่ก็ไม่ได้ “ฟรี” จริงๆ บริษัทหลายที่ “จงใจ” จำกัดฟังก์ชันการทำงานของเว็บฟรีไว้ คุณต้องจ่ายเงินถ้าอยากได้ความสามารถหรือบริการเพิ่มเติม

5. บริการอาจถูกยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้

กรณีมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว คือเว็บไซต์มัลติพลาย (multiply.com)

แต่ก่อนนั้น มัลติพลายเป็นเว็บไซต์สำหรับเอาไว้แชร์รูปภาพและพูดคุยกับเพื่อนออนไลน์ ด้วยความที่เว็บไซต์นี้ฟรี 100% ทำให้มันได้รับความนิยมในหมู่นักถ่ายภาพอย่างมาก

แต่แล้วเมื่อปี 2556 อยู่ๆ มัลติพลายก็ประกาศปิดตัวลง สร้างความประหลาดใจให้ผู้ใช้อย่างมาก การปิดตัวของมัลติพลายสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้มากมาย โดยเฉพาะคนที่ได้อัพโหลดรูปภาพบนเว็บมัลติพลายของตัวเองเยอะๆ (เช่นพวกช่างภาพทั้งหลายที่ใช้มัลติพลายเป็นที่แสดงผลงาน) เพราะเมื่อบัญชีถูกปิด ทุกอย่างที่อัพโหลดไว้ก็หายไปในพริบตา

นี่เป็นอีกปัญหาของเว็บไซต์ฟรีครับ ถ้าคุณไปอ่านเงื่อนไขการให้บริการของพวกเว็บฟรีต่างๆ ผมการันตีได้ว่าไม่มีที่ไหนรับประกันว่าจะเก็บรักษาเว็บไซต์ฟรีของคุณไว้ตลอดไป


ทั้งหมดนี้คือข้อเสียหลักๆ ของเว็บไซต์ฟรี ถ้าหากยอมรับข้อเสียเหล่านี้ได้ ผู้อ่านก็สามารถสร้างเว็บไซต์ฟรีได้ครับ

แต่หากตอนนี้คุณเริ่มไม่มั่นใจ และสนใจอยากรู้ว่าการทำเว็บไซต์ “แบบไม่ฟรี” นั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายซักประมาณเท่าไหร่ ผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านบทความด้านล่างได้ครับ

2 thoughts on “5 เหตุผลที่คุณไม่ควรสร้างเว็บไซต์ฟรี”

  1. สอบถามหน่อยครับ ผมมีเวบ WP เวบหนึ่งต่อมาจ่ายเงินเดือนละ 4$ เพื่อเอาโฆษณาออก ทีนี้สมมติว่าต่อไปตังหมดไม่ได้จ่ายเงินแล้ว เวบ WP นี้จะหายไปเลย หรือระบบจะย้ายกลับมาใช้แบบโดเมนอันก่อนที่ใช้ฟรีครับ

Comments are closed.